ในการสวด คาถาชินบัญชร เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งๆ ขึ้น ก่อนจะเจริญภาวนา จึงขอให้ตั้งนะโม 3 จบ และน้อมจิตระลึกถึงคุณพระคุณสมเด็จโต ด้วยคำบูชาดังนี้
ปุตตะกาโมละเภปุตตัง อัตถิกาเยกายะ ญายะ อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต |
ธะนะกาโมละเภธะนัง เทวานังปิยะตังสุตตะวา ท้าวเวสสุวัณโณ นะโมพุทธายะ |
๑.
ชะยา สะนา กะตา พุทธา จะตุ สัจจา สะภัง ระสัง |
เชตะวา มารัง สะวา หะนัง เย ปิวิงสุ นะรา สะภา |
พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ อริยสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์
|
๒.
ตัณหังกะราทะโย พุทธา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง |
อัฏฐะวีสะติ นา ยะกา มัตถะเก เต มุนิส สะรา |
มี ๒๘ พระองค์ คือ พระผู้ทรงนามว่า ตันหังกร เป็นอาทิ พระพุทธเจ้าจอมมุนีทั้งหมดนั้น
|
๓.
สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง |
พุทโธ ธัมโม ทะวิโล จะเน อุเร สัพพะคุณา กะโร |
ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่บนศรีษะ พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิด
แห่งสรรพคุณอยู่ที่อก
|
๔.
หะทะเย เม อะนุรุทโธ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภา คัสสะมิง |
สารีปุตโต จะ ทักขิเณ โมคคัลลาโน จะวา มะเก |
พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจ พระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย
พระอัญญาโกณฑัญญะอยู่เบื้องหลัง
|
๕.
ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง กัสสะโป จะมะหา นาโม |
อาสุง อานันทะราหุโล อุภาสุง วามะโส ตะเก |
พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย
|
๖.
เกสะโต ปิฏฐิภา คัสสะมิง นิสินโน สิริสัม ปันโน |
สุริโย วะ ปะภัง กะโร โสภีโต มุนิปุง คะโว |
มุนีผู้ประเสริฐ คือ พระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
|
๗.
กุมาระกัสสะโป เถโร โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง |
มะเหสี จิตตะวา ทะโก ปะติฏฐาสิ คุณา กะโร |
พระเถระกุมาระกัสสปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากประจำ
|
๘.
ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ เถรา ปัญจะอิเม ชาตา |
อุปาลี นันทะสี วะลี นะลาเต ติละกา มะมะ |
พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวลี พระเถระทั้ง ๕ นี้
จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก
|
๙.
เสสา สีติ มะหาเถรา เอเตสีติ มะหาเถรา ชะลันตา สีละเต เชนะ |
วิชิตา ชินะสา วะกา ชิตะวันโต ชิโน ระสา อังคะมังเค สุสัณ ฐิตา |
ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือ ผู้มีชัยและเป็นพระโอรสเป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วนรุ่งโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่
|
๑๐.
ระตะนัง ปุระโต อาสิ ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ |
ทักขิเณ เมตตะสุต ตะกัง วาเม อังคุลิมา ละกัง |
พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้า พระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคสูตรอยู่เบื้องหลัง
|
๑๑.
ขันธะโม ระปะริตัญ จะ อากาเส ฉะทะนัง อาสิ |
อาฏานาฏิยะสุต ตะกัง เสสา ปาการะ สัณฐิตา |
พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตรเป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคา
อยู่บนนภากาศ
|
๑๒.
ชินานา นาวะระสัง ยุตตา วาตะปิตตาทิสัญ ชาตา |
สัตตัปปาการะลัง กะตา พาหิรัช ฌัตตุปัท ทะวา |
อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง คือ สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพง
คุ้มครองเจ็ดชั้น
|
๑๓.
อะเสสา วินะยัง ยันตุ วะสะโต เม สะกิจเจ นะ |
อะนันตะ ชินะเต ชะสา สะทา สัมพุทธะปัญชะเร |
ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้า ไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อมแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น เป็นสมุฏฐาน
จงกำจัดให้พินาศอย่าให้เหลือ
|
๑๔.
ชินะ ปัญชะระ มัชฌัมหิ สะทา ปาเลนตุมัง สัพเพ |
วิหะรันตัง มะหิี ตะเล เต มะหาปุริสา สะภา |
ขอพระมหาบุรุษ ผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดี ฉะนี้แล
|
๑๕.
อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ธัมมานุภาเวนะ ชิตา ริสังโฆ สัทธัมมานุภาวะ ปาลิโต |
ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะ ราโย จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ ฯ |
ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่ง
พระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ
|
| ที่มา http://www.dhammathai.org/sounds/chinabanchon.php |